วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อีกหนึ่งสายสัมพันธ์...บนรวงผึ้ง




“สวัสดีครับ นั่นพี่จอยใช่ไหมครับ นี่น้องหยก น้องรหัสพี่เอง ที่คุยกันใน MSN สรุปวันพรุ่งนี้ผมไปหาพี่ว่างใช่ไหมครับ? อ่า... โอเคได้ครับ..... ครับผม...ฝากขอบคุณเพื่อนพี่ด้วยครับ” นี่คือบทสนทนาทางโทรศัพท์ หลังจากที่ผมได้ตามหารุ่นพี่ลาดกระบังหลายๆรุ่นจากการไล่สายรหัส35# ขึ้นไป จนมาจบที่พี่จอยที่ห่างกับผม 9 ปี แต่ตามกำหนดการผมต้องตามหารุ่นพี่ที่ห่างกับผมสิริรวมด้วยกัน 10 ปีถ้วน ! ซึ่งพี่จอยได้แนะนำรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง ที่พี่จอยสนิทมากๆ เชิญมาเป็นแขกให้ผมสัมภาษณ์โดยเฉพาะ นั่นเป็นที่มาที่ทำให้ผมได้รู้จักกับพี่โน้ตครับ

สถานที่นัดพบคือบ้านของพี่จอยนั่นเอง และเป็นออฟฟิศด้วยในตัว ภายนอกตกแต่งสไตล์โมเดิร์นนิดๆ แต่ดูแล้วไม่ตกยุค ส่วนภายในบ้านแม้ว่าพื้นที่มีจำกัดแต่ก็สามารถออกแบบให้ใช้งานได้ครบทุกอย่าง ชั้นบนเป็นโฮม ออฟฟิศ ใช้เป็นสถานที่ทำงาน มีสมาชิกประมาณ 5 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรุ่นพี่ลาดกระบัง ผู้ที่ออกแบบบ้านหลังนี้คือ พี่ภพ สามีและเพื่อนร่วมรุ่นพี่จอยนั่นเอง พี่จอยบอกว่า “ทุกๆทีก็นัดเจอกันตลอดอยู่แล้ว มาสังสรรค์บ้างเป็นปรกติ ได้เจอไอ้โน้ตบ่อยอยู่แล้ว ไม่ต้องเกรงใจ แต่หลังจากคลอดลูกมาพี่ก็ไม่ค่อยได้เจอมันอีกเลย” พี่จอยช่วงนี้ยุ่งมากๆเพราะมีเจ้าตัวน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียงแค่4เดือนเอง จากบ้านและโฮมออฟฟิศ ก็ได้กลายเป็นสถานที่เลี้ยงเด็กอีกด้วย ผมชอบที่นั่นจริงๆครับ “ArakStudio” พัฒนาการซอย 50 หมู่บ้านเคหะนคร3 (ชอบเป็นการส่วนตัว จึงไม่คิดค่าโฆษณา)

นั่งคุยกับพี่จอยสักพัก พร้อมกับทานอาหารเย็นไปพลาง รอพี่โน้ตมาที่บ้าน แต่ระหว่างนั่นก็ได้เจอรุ่นพี่มากมายทั้งจากลาดกระบังและสถาบันอื่น นั่นเพราะพี่จอยได้ชวนเพื่อนๆสมัยเรียนมัธยมมาด้วย ซึ่งสืบไปมาได้รู้ว่า พี่จอยกับพี่โน๊ตเป็นเพื่อนเรียนโรงเรียนเดียวกันห้องเดียวกัน แต่พี่โน้ตสอบเทียบ จึงเข้ามาเรียนก่อน ทำให้ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์พี่เค้าพอดี และรร.ที่ว่านี่ก็คือ เตรียมพัฒน์ ที่อยู่แถวๆบ้านพี่จอยนี่เอง โอ้วววววว.... นอกจากจะเป็นพี่รหัสผมแล้วยังเป็นพี่โรงเรียนผมอีกด้วย ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้ เมื่อบทสนาถูกขัดด้วยเสียงกริ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล นั่นคือรุ่นพี่โรงเรียนอีกที่ผมกำลังรออยู่ พี่โน้ตนั่นเอง

“อ่อ รุ่นนี้ใช่ไหม ที่พกฝิ่นเข้าห้องสอบ “ นี่คือบทสนทนาแรกของผมกับพี่โน้ตครับ (ข่าวไปไวมาก)
“สัมภาษณ์เลยก็ได้นะ ระหว่างที่กินข้าวนี้แหละ พี่ไม่ถือ” เมื่อพี่เขาไม่ว่าอะไรผมจึงยิงคำถามไปก่อนทีละนัด


ขอ ชื่อและนามสกุลกับประวัติการศึกษาและประวัติการทำงานครับ

ชื่อ ชยานันท์ ชลายนานนท์ จบปริญญาตรี สจล.รหัส 09 ทำงานอยู่ที่บริษัท RDG (Retail Design Group) ตำแหน่ง Senier Architect งานที่ทำก็เป็นงานเกี่ยวกับงานออกแบบ retail ในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ซึ่งถ้านับช่วงเวลาฝึกงานด้วยแล้ว พี่โน้ตทำงานกับบริษัทนี้มาเกือบ10แล้วครับ งานของพี่เขาคือต้องคอยดูแลงานทั้งหมด co กับเจ้าของ และฝ่ายdetail เขียนแบบ และก่อสร้าง รวมไปถึงวาง planning ของงานด้วย เหมือนทำbubble design นั่นเอง

ตัวอย่างงานที่ทำ
- All Season
- BMGL (ห้างในรถไฟใต้ดิน)
- Office Lobby
- Paragon (ดูเรื่องconcept Planning)
- Digital Gateway
งานที่พี่โน้ตกำลังทำอยู่- Terminal 21
- Eakamai Gateway





ปัญหาที่เกิดจากการทำงาน - เนื่องจากว่าการทำห้างมันใช้เวลานาน และตัวร้านค้าจำเป็นต้องดึงดูดคนอยู่เสมอ ฉะนั้น ต้องตามเทรนด์ให้ทัน แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป เทรนด์ก็เปลี่ยน ลูกค้าก็อยากให้เปลี่ยน เพราะกลัวตกเทรนด์ ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแปลงเยอะ ทำให้คนในฝ่ายอื่นๆเริ่มเหนื่อย
- เกิดปัญหาทะเลาะกันบ้างกับฝ่ายอื่นๆ เพราะลูกค้าไม่แน่นอน

วิธีแก้ไข
ปรับความเข้าใจ การสื่อสารต้องดี และคุยกันให้รู้เรื่อง เท่านี้ก็สามารถทำงานกันต่อได้
แนวคิดในการทำงานของพี่โน้ต
ดูผู้หลักผู้ใหญ่ว่าเขาทำงานกันยังไง ดูเจ้านาย ดูผู้มีประสบการณ์ เพราะเขาอาบน้ำร้อนมาก่อน บางปัญหาจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์มากกว่าทฤษฎี ดูหนังสือเยอะๆ แต่ก็ไม่ใช่ Copy แค่เอามาเป็นแนวความคิด แต่ไม่ใช่ว่าไปลอกเขามาเลย ต้องมีเหตุผลเสมอว่าเราทำไมถึงออกแบบได้แบบนี้ คำว่า”ชอบ”อย่างเดียวก็ไม่ได้ เอามาใช้ในชีวิตจริงก็ไม่ได้ ลูกค้าเราคงไม่พอใจถ้าหากเราตอบไปว่า ผมชอบแบบนี้ จึงออกแบบมาเป็นแบบนี้


พี่โน้ตคิดอย่างไรกับจรรยาบรรณวิชาชีพ
อุ้ย...ยากเลย ! (คำแรกที่พี่เขาอุทานครับ) เราต้องทำตามจรรยาบรรณแม้ว่าจะลำบากแค่ไหน ตามกฎ ตามกติกาและก็ตามคำแนะนำที่ได้มา



บทสนทนาทั้ง4ข้อหลัก ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ถ้ารวมเวลาคุยทั้งหมดของผมกับพี่โน๊ตก็เกือบ2ชั่วโมงเห็นจะได้ ทำให้ได้รู้ว่าพี่โน้ตเป็นคนที่เก่งมากๆคนหนึ่ง และ เป็นคนที่คุยสนุกมากๆด้วย สุดท้ายก็ขอขอบคุณพี่โน้ต(อีกครั้ง) ที่ได้ให้ความรู้ ประสบการณ์ และแนวทางอีกทาง ที่พี่ได้เจอในการทำงานครับ และก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำว่าเบียร์ลีโอที่ผลิตจากโรงงานขอนแก่น อร่อยที่สุด (คราวหน้าผมจะลองดู) และขอบคุณพี่จอยที่ให้ผมได้เจอกับพี่โน้ต ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อสถานที่ ครับ ได้เห็นงานพี่จอยแล้ว ทำให้ผมตกใจอยู่ไม่น้อย ทำให้ผมอยากสัมภาษณ์พี่จอยด้วยอีกคนเลย และขอบคุณมากๆเลยครับ สำหรับอาหารเย็น แล้วสุดท้ายก็ขอบคุณอาจารย์ไก่ครับ ที่ทำได้มอบหมายงานชิ้นนี้ให้กับผม ซึ่งทำให้ผมได้เจอกับพี่ๆทั้งสองคน




หมายเหตุ มีอีกหลายบทสนทนาที่ได้คุยกับพี่โน๊ต แต่ไม่สามารถเอามาลงได้ครับ ขอเก็บเอาไว้ดีกว่าครับ ฮาๆๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น